เตรียมรับมือ 14-17 ต.ค. ทั่วทุกภาคจะมีฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักถึงหนักมาก

ข่าวสารอัพเดท

by Administrators 3914 Views

pykak

ภาคกลางตอนล่าง-ตะวันออก-ใต้ ยังคงมีฝน ตกหนักบางแห่ง ก่อนช่วงวันที่ 14-17 ต.ค. ทั่วทุกภาคจะมีฝนเพิ่มขึ้น ขณะที่กทม.-ปริมณฑล คาดวันนี้ฝนจะตกช่วงเที่ยง บ่าย และหัวค่ำช่วงวันที่ 14–17 ต.ค. นี้ ความกดอากาศสูงจากประเทศจีนที่แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนกำลังแรง ทำให้ร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณฝั่งตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ มีแนวโน้มพัฒนาขึ้นเป็นพายุ และมีโอกาสเคลื่อนเข้ามายังบริเวณทะเลจีนใต้ และเข้าสู่ประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งอันดามัน กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล จะมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน จะมีปริมาณฝนเพิ่มขึ้น สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยอย่างต่อเนื่อง

สำหรับภาพถ่ายดาวเทียมแสดงกลุ่มก้อนเมฆที่ปกคลุมอยู่เหนือท้องฟ้าเมืองไทยเช้านี้ พบว่ากลุ่มเมฆฝนส่วนใหญ่จะปกคลุมบริเวณฝั่งตะวันตกของประเทศ ภาคเหนือ และบริเวณตอนกลาง ในพื้นที่ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน โดย

ภาคเหนือ ส่วนใหญ่เป็นเมฆชั้นกลาง เมฆชั้นสูง และมีเมฆฝนฟ้าคะนอง บริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย ลำปาง ลำพูน ตาก กำแพงเพชร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนใหญ่เป็นเมฆชั้นกลางและชั้นสูง ยังไม่พบกลุ่มเมฆฝน ,ภาคกลาง มีเมฆเป็นส่วนมาก

ส่วนใหญ่เป็นเมฆชั้นกลาง เมฆชั้นสูง และพบกลุ่มเมฆฝนฟ้าคะนอง บริเวณ จ. นครสวรรค์ อุทัยธานี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี นครปฐม อยุธยา ราชบุรี ,ภาคตะวันออก มีเมฆเต็มท้องฟ้า ส่วนใหญ่เป็นเมฆชั้นกลาง และชั้นสูง และมีเมฆฝนฟ้าคะนอง บริเวณ จ.สระแก้ว ชลบุรี จันทบุรี ตราด และภาคใต้ มีเมฆเป็นส่วนมาก ส่วนใหญ่เป็นเมฆชั้นกลางและชั้นสูง และมีเมฆฝนฟ้าคะนอง บริเวณจ.เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ตรัง สตูล และสงขลา

จากการคาดการณ์ปริมาณฝนสะสมตลอด 48 ชั่วโมงต่อจากนี้ พบว่าปริมาณฝนสะสมมากบริเวณภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และบริเวณภาคใต้ตอนบน โดยเฉพาะบริเวณจ.ประจวบคีรีขันธ์ มีปริมาณฝนสะสมมากเป็นพิเศษ จนอาจเกิดภัยพิบัติอื่นๆตามมา ทั้งน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม

ขณะที่อุณหภูมิวันนี้ภาคเหนือตอนบน ภาคเหนือฝั่งตะวันตก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เริ่มมีอากาศเย็น โดยอุณหภูมิพื้นราบต่ำสุดอยู่ประมาณ 21-22 องศาเซลเซียส ส่วนสูงสุดช่วงบ่ายจะอยู่ที่ประมาณ 33-34 องศาเซลเซียสในพื้นที่ภาคกลาง

ภาพรวมสภาพอากาศทั่วไทย

ภาคเหนือ มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชัยภูมิ นครราชสีมา สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 องศาเซลเซียส

ภาคกลาง มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี และนครปฐม อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออก มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่ อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีโอกาสเกิดฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยโอกาสการเกิดฝนจะอยู่ในช่วงเที่ยงถึงบ่าย และช่วงหัวค่ำ อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 34 องศาเซลเซียส

Comments